นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 ณ ตึกสันติไมตรี โดยมี แพทองธาร ชินวัตร รองประธาน เดินคู่ลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมายังตึกสันติไมตรี
โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวมสูทลายผ้าขาวม้า สีสันสดใส ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวไทย พร้อมเปิดเผยว่า ตนชอบสีสดใสอยู่แล้ว
โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่กระทบสถานะการเงินการคลัง
"เศรษฐา" เผยปัญหา บิ๊กต่อ- บิ๊กโจ๊ก จบแล้ว รับมีขัดแย้งหลายคู่
ขณะที่ แพทองธาร ก็ได้นำเอาผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว เช่นเดียวกับคณะทำงานและรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ พร้อมระบุว่า ตื่นเต้นเพราะไม่ได้เข้าทำเนียบมาเป็น 17 ปีแล้ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี นำประชุมพร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้เป็นความร่วมกันระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อพิจารณาและการขับเคลื่อนซอฟพาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างบูรณาการ รัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายให้ความสำคัญกับการส่งเสริมซอฟพาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นประเทศไทยในเวทีโลก
ปัจจุบันมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยหลายคณะ และหลายนโยบาย โดยต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น รัฐบาลจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีเป้าหมายผ่านคอนเทนต์ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์
ด้าน นางสาวแพทองธารระบุว่า การจัดทำนโยบาย OFOS (One Family One Soft Power) และการจัดตั้งองค์การมหาชนอย่าง THACCA ( Thailand Creative Content Agency) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นนโยบายที่สร้างระบบนิเวศ ให้กับซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ซึ่งประเทศไทยจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยแรงงานทักษะสูงอย่างสร้างสรรค์ ในอุตสาหกรรมซอฟพาวเวอร์ต่างๆ และในเชิงทูตวัฒนธรรม ไทยมีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรมเป็นที่รู้จักไปเป็นที่ทั่วโลก
สำหรับนางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า นโยบายซอฟต์พาวเวอร์จะถูกผลักดันไปพร้อมกับนโยบายอื่นๆ โดยนโยบาย OFOS และ THACCA จะมุ่งยกระดับ ทักษะของคนไทยจำนวน 20 ล้านคน ให้เป็นแรงงานไทย ที่มีทักษะสูง จากการคาดการณ์ หากเราทำนโยบายนี้ได้สำเร็จ อย่างน้อยจะมีรายได้เข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท ต่อปี มีการจ้างงานมากขึ้น 20 ล้านตำแหน่ง พร้อมฃการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพื่อกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของโลกในเรื่องซอฟพาวเวอร์และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จะแบ่งการทำงานเป็น 3 ขั้นตอน คือ
1. การพัฒนาคน โดยหาคนที่มีความฝัน และทำให้เป็นจริงได้ โดยไม่กำหนดอายุ 1 คน 1 ครอบครัว โดยตั้งศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ ระดับตำบลถึงจังหวัด ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ คนในครอบครัว 1 คน ได้เข้าไปเรียนรู้ทักษะด้านต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะใช้เงินงบประมาณที่กระจายอยู่ในหลายหน่วยงาน ให้มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการฯ และเมื่อผ่านการอบรมแล้วจะมีการมอบใบประกาศ รวมถึงทุนในการศึกษาต่อต่างประเทศ
2. พัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาต่างๆ ภายในประเทศ 11 สาขา คือ อาหาร กีฬา เฟลติวัล ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ ออกแบบ แฟชั่น โดยต้องปรับแก้ระเบียบกฎหมาย ที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ รวดเร็วขึ้น และสร้างวันสต็อปเซอร์วิส อำนวยความสะดวกด้านเอกสาร อีกทั้งยังสนับสนุนทุนวิจัย และสร้างแรงจูงใจด้านภาษี
3. รุกตลาดโลก ให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้กลายเป็นระดับสากล อาศัยความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ขณะเดียวกันจะผลักดัน เทศกาลของคนไทยให้มีโอกาสไปร่วมงานระดับโลก
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า หากเราดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ เริ่มตั้งแต่วันนี้วันที่ 3 ตุลาคม 2566 โดยระยะ 100 วันแรก คือ 11 มกราคม 2567 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะเปิดให้ลงทะเบียนตามความสนใจ และจะร่วมจัด Winter Festival เทศกาลฤดูหนาวให้กับ กรุงเทพมหานคร และภายในระยะเวลา 1 ปี จะบ่มเพาะศักยภาพคน จะสามารถสร้างแรงงานทักษะสูง เป็นจำนวนอย่างน้อย 1 ล้านคน พร้อมคาดหมายว่า พ.ร.บ.THACCA จะได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรคำพูดจาก สล็อตเว็บไซต์โดยตรง
โปรแกรมการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2022 วันที่ 3 ต.ค. 66 ของนักกีฬาไทย
โปรแกรมแข่งวอลเลย์บอลหญิงไทย รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำศึกเอเชียนเกมส์ 2022
ตลาดรถกระบะร่วงหนักสัดส่วนเหลือ 32% ฟอร์ดอัดแคมเปญหนักหวังซื้อใจ